เปิดภาพพิธีตำมวลสาร พิมพ์พระสมเด็จสี่หมื่น หาคนชื่อ นิ-ยม-ชม-ชอบ นั่งประจำครก

มาร่วม เปิดภาพ พิธีตำมวลสาร (17 มกราคม66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการขุดเจอพระเครื่องลาง พระบูชา ที่ซุกอยู่ในบาตรพระ ซุกอยู่ในไห อายุกว่า 90 ปี รวมทั้ง ยังขุดเจอ อาทิเช่น พระสมเด็จ พระปิดตา พระทุ่งเศรษฐี พระสมเด็จนางพญา พระซุ้มกอ พระรีลาหย่อง พระรอด พระผงสุพรรณ
รวม ๆแล้ว ราวๆ 2,000 องค์ อายุราว 60 – 70 ปี ใส่เอาไว้ข้างในหีบเหล็กโบราณ ซุกในดิน ใต้กำแพงแก้วโบราณ ที่เสียใกล้ที่จะล้มพังทลาย
โดยทางพระครู โสภณจันทรังสี เจ้าอาวาส วัดใหม่สี่หมื่น ได้ขอคำแนะนำกับทาง กรรมการวัด รวมทั้ง ญาติโยม เพื่อบูรณะก่อสร้าง กำแพงแก้วขึ้นใหม่ แล้วก็ ได้ว่าจ้าง รถแบ็คโฮ มาขุดเพื่อปรับพื้นที่จึงได้ขุดเจอพระกรุแตกดังกล่าว
จากการตรวจสอบพระเครื่องลาง พระบูชาที่พบทั้งหมด บางองค์ยังคงมีสภาพดี แต่เนื้อบาง ซึ่ง เกิดจากความชุ่มชื้นที่ฝังอยู่ใต้ดินทำให้แตกหักง่าย แล้วก็ บางส่วน มีสภาพแตกหัก เนื้อบิ่น ไม่สามารถเช่าบูชาตามเป้าประสงค์ของ หลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส องค์แรก รวมทั้ง หลวงพ่อยง หรือ พระครู โสภณวราทร อดีตเจ้าอาวาส องค์ที่ 5 ของวัดใหม่สี่หมื่น ที่ได้นำ พระเครื่องต่าง ๆ
ที่สร้างโดยหลวงพ่อกรวย และ พระบูชาที่หลวงพ่อพิณสร้าง บรรจุเอาไว้ในเจดีย์เก่า รอบอุโบสถ์ และ ส่วนใดส่วนหนึ่งทำช่องฝังไว้ใต้กำแพงแก้ว เพื่อหวังว่า พระจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ช่วยบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ และก็ ปรับปรุงวัด ในวันข้างหน้า
ซึ่ง โดยทางพระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสวัดใหม่สี่หมื่น รูปปัจจุบันนี้ จึงได้นำ พระกรุแตกทั้งหมด มาทำเป็นมวลสาร ผสมกับมวลสารดั้งเดิม
ซึ่งคาดว่า จะมีอายุนับร้อย ๆ ปี ที่อดีตเจ้าอาวาสได้ใส่ไว้ภายในไหโบราณ รวมทั้ง รักษาต่อ ๆ กันมา เพื่อนำมาผสมกัน ทำเป็นพระสมเด็จสี่หมื่น
ซึ่งเป็น พระที่หลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส องค์แรกของวัดใหม่สี่หมื่น ได้ทำเอาไว้ เดี๋ยวนี้หายาก และ ไม่มีเก็บไว้ที่วัด แม้แต่องค์เดียว มีอยู่ที่ประชาชนที่ได้นำไปบูชา บางบุคคล นำแขวนคอติดตัว เพื่อคุ้มครองภัย มากระทั่งปัจจุบันนี้
โดย เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 66 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซึ่ง เป็นวันครู ทางวัด ได้มี พิธีตำมวลสาร
และ กดพิมพ์พระ “สมเด็จสี่หมื่น” รุ่นกรุแตก ภายในอุโบสถ์ของทางวัดใหม่สี่หมื่น มีการนำพิธีการโบราณ ผสมกับพิธีการตามความศรัทธา โดยมีการลำดับขั้นตอน ด้วยการนำคนที่มีชื่อ “นิ ยม ชม ชอบ” ทั้งชาย รวมทั้ง หญิง มาประจำครกที่ 1 – 4 พร้อมทั้งนำคนที่มีอำนาจวาสนา
ซึ่ง เป็นผู้ใหญ่บ้าน ประจำครกที่ 5 ส่วน กำนันตำบลสี่หมื่น ประจำครกที่ 6 รวมทั้ง นำคนที่เป็นมิ่งขวัญ อายุมั่นขวัญยืน ซึ่ง เป็นผู้สูงอายุ วัย 88 ปี มาตำมวลสาร
มี พระกรุแตก พระผงดั้งเดิมที่เก็บต่อกันมานับร้อยปี ข้าวสาร รวมทั้ง ข้าวเหนียว ที่ผ่านพิธีการพุทธาภิเษก ในพิธีการสำคัญต่าง ๆ โดยทั้ง 7 คน ต่างคนต่างตำมวลสารต่าง ๆ
โดยพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และ เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นสิริมงคลในขณะที่ทั้ง 7 คน ตำมวลสาร กระทั่งละเอียดเป็นผุยผง ซึ่ง จะเป็นมวลสารขั้นต้น
จากนั้น นำผงมวลสารขั้นแรก มาเทรวมกันที่ครกที่ 8
ซึ่ง ได้นำผู้ที่มีฐานะ เศรษฐี มีกินมีใช้ มาตำมวลสารขั้นแรกทั้งหมด ให้ผสมเข้ากัน จนกระทั่งเป็นมวลสารองค์รวม ในลำดับต่อมา ได้นำบุคคลที่มี ความมั่นคง มีความร่ำรวย คนดวงเฮง ๆ ผู้ที่มีชื่อเสียง แล้วก็ คนที่ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล รวมจำนวน 5 คน มานั่งล้อมวงประจำครกที่ 9
ซึ่ง เป็นครกสุดท้าย. โดยก่อนที่ ทั้ง 5 คนจะตำมวลสารนั้น ได้นำมวลสารสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย เกสรดอกไม้ 9 ชนิด , ว่านมงคล 108 , ผงแร่เหล็กน้ำพี้ , น้ำว่านมงคล 108 , กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า , ผงอิทธิเจ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วสารทิศ มาใส่รวมในครกที่ 9
พร้อมทั้งนำมวลสารองค์รวม จากครกที่ 8 มา ผสมรวมกัน แล้วก็ ให้ทั้ง 5 คน ได้ตำมวลสารเป็นจำนวน 1 รอบ สงฆ์ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วก็ เจริญชัยมงคลคาถา ในระหว่างตำมวลสาร
แล้วต่อจากนั้น พระครูโสภณจันทรังสี ได้นำกระดานชนวน นำดินสอพอง เขียนอักขระยันต์ ยันต์ตัวหัวใจเศรษฐี ยันต์ตัวนะโมพุทธายะ ยันต์ตัวนะเมตตา ยันต์ตัวนะชาลีติ และ ยันต์ตัวรวย พร้อมทั้งใช้มือปาดลง ในครกที่ 9
แล้วก็ ให้บุคคลทั้ง 5 ช่วยกันตำมวลสาร กระทั่งเหนียวได้ที่ พร้อมที่จะกดพิมพ์พระ ซึ่ง ใช้เวลาตำมวลสารราว ๆ 1 ชั่วโมง
ในขั้นสุดท้าย เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์พระ นำมวลสารที่ผสมกันได้ที่ จนเหนียวนำมาใส่ ทองคำเปลว 100% , จีวรพระเกจิอาจารย์ แล้วก็ เส้นผมพระเกจิอาจารย์ เจ้าอาวาส , ปั้นเป็นก้อนกลม วางลงในแบบพิมพ์พระสมเด็จสี่หมื่น ที่สร้างโดยหลวงปู่สุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาส ที่ได้เก็บรักษามากว่า 90 ปี ให้พระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันนี้ เป็นประธานในพิธี
กระทำกดพิมพ์ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ด้วยมือ พร้อมกันนี้ภิกษุ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วก็ เจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นมงคล และก็ เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เกิดความเข้มขลัง ให้กับคนที่นำไปบูชา ทั้งนี้ มีการกดพิมพ์ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ด้วยมือ ชุดนำฤกษ์ จำนวน 449 องค์ และก็ จะมีการกดพิมพ์ ไป จนกระทั่งครบ 999 องค์
จากการซักถาม พระครูโสภณจันทรังสี เจ้าอาวาสวัดใหม่สี่หมื่น กล่าวว่า
อาตมา มีความตั้งอกตั้งใจที่จะปฏิบัติตามเป้าหมายของอดีตเจ้าอาวาส ที่ท่านได้มีความมุ่งมั่นที่จะให้นำพระผง พระบูชา ที่ซุกซ่อนเอาไว้ ถ้าเกิดวันข้างหน้า จะมีการบูรณะ หรือ สร้างกำแพงแก้ว รอบอุโบสถ์ ขึ้นใหม่
ซึ่ง ควรต้องใช้สาเหตุ เยอะมากเป็นไปตามเวลา ในปัจจุบัน ค่าวัสดุต่าง ๆ รวมไปถึงค่าตอบแทน ค่ารับจ้างเหมางาน มีราคาสูงมากขึ้น จะได้นำพระที่ขุดพบเห็น จากพระที่ดูไม่มีราคา แต่กลับมีคุณค่ามาก
ซึ่ง เป็นพระที่เรียกว่า “กรุแตก” ญาติโยมต่างต้องการนำไปบูชา แต่จากการที่ขุดพบ พบว่ามีพระแตก ชำรุดทรุดโทรมไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่พอ ต่อญาติโยม ที่ต้องการ ประกอบกับอาตมา ต้องหาปัจจัย ที่จะมาก่อสร้างกำแพงแก้ว ดังกล่าวด้วย ก็เลยได้จัดสร้าง พระสมเด็จสี่หมื่นขึ้นใหม่ เป็นรุ่น “กรุแตก” เพื่อจะให้ญาติโยมได้บูชา
พระครูโสภณจันทรังสี กล่าวต่อว่า ในการ สร้าง พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก ได้จัดสร้างเพียงแค่ปริมาณ 999 องค์ เท่านั้น รวมทั้ง ได้จัดพิธีการพิมพ์พระด้วยมือ มีการทำพิธีตำมวลสารแบบโบราณ ที่ผสมกับความเชื่อถือต่าง ๆ
ทั้งหาบุคคล ชาย หญิง ที่มีชื่อมงคล “นิยม ชม ชอบ” แล้วก็ ผู้ที่มีฐานะมั่นคง มีชื่อเสียง คนมีลาภ และก็ คนที่เป็นคนมั่งคั่งมีกินมีใช้ คนดวงโชคดี มาประกอบพิธีตำมวลสาร เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นมงคลต่อญาติโยมที่นำไปบูชา
“พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ที่เช้าใจกันว่า คนที่นำไปบูชาจะเป็นที่ “พระสมเด็จสี่หมื่น รุ่นกรุแตก” ที่เชื่อกันว่า ผู้ที่นำไปบูชาจะเป็นที่ “นิ ยม ชม ชอบ มีอำนาจวาสนา เป็นมิ่งขวัญ อายุมั่นขวัญยืน มีฐานะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี มีกินมีใช้ มีความมั่นคง ร่ำรวย เฮงๆ และ มีชื่อเสียงโด่งดัง”